ไม่คุ้นเลย ไม่เคยมีลูก ทำไมต้องวางแผนการศึกษาบุตร แค่ฝากธนาคาร หรือ ซื้อกองทุน ไม่เพียงพอหรือ?
Keyword สำคัญในชีวิตของคนเกือบทุกคนบนโลกนี้ คือ “การวางแผน” ไม่ว่าจะเป็น การวางแผนการทำงาน วางแผนการมีครอบครัว วางแผนการมีลูก วางแผนการลงทุน วางแผนเกษียณ วางแผนประกันสุขภาพ และเมื่อขึ้นชื่อว่า “การวางแผน” เราคงไม่อยากทำให้แผนนั้น “ล้มเหลว” อย่างเด็ดขาด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อได้เปลี่ยนสถานะเป็น “พ่อแม่” แล้ว หลายคนคงไม่อยากให้ลูกต้องถูกเลี้ยงดูและเติบโตขึ้นมาอย่างยากลำบาก จึงก้มหน้าก้มตาทำงาน เก็บหอมรอมริบทุกบาททุกสตางค์ เพื่อหวังให้ลูกมีชีวิตที่ดีในอนาคต
ดังนั้น การวางแผนการศึกษาบุตร ก็ถือเป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง ไม่ต่างกับการวางแผนด้านอื่น ๆ เลย
แต่ในขณะเดียวกัน พ่อแม่หลายคนก็อาจจะมีคำถามอยู่เหมือนกันว่า แล้วเราควรวางแผนการเงินอย่างไร จะวางเงินของเราไว้ที่ไหน จึงจะถือเป็นการวางแผนการศึกษาบุตรที่ดี วันนี้ AVC มีขั้นตอนวางแผนการศึกษาบุตรมาแนะนำให้กับพ่อแม่ทุกท่าน ได้ลองเริ่มต้นในการวางแผนการศึกษาบุตร โดยทำตามขั้นตอนดังนี้
เลือกประเภทโรงเรียนให้ลูก
ในการเริ่มต้นของการวางแผนการศึกษาบุตร เชื่อว่าพ่อแม่ทุกคนย่อมต้องการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูก แต่ต้องอย่าลืมคำนึงถึงตัวคุณเองที่เป็นผู้มีรายได้หลักว่า ค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของโรงเรียนที่คุณเลือกนั้น หนักเกินไปหรือไม่ อายุปัจจุบันของเราอยู่ที่เท่าไหร่ เพื่อเป็นการประเมินอนาคตว่า เราจะต้องใช้กำลังและเวลาที่จะทำตามแผนที่วางไว้มากน้อยแค่ไหน
แค่ข้อแรก จุดเริ่มต้นในการวางแผนการศึกษาบุตรของแต่ละคนก็แตกต่างกันออกไปแล้ว
ประมาณการณ์ค่าเรียนเบื้องต้นในแต่ละระดับชั้น
การวางแผนการศึกษาบุตรที่ดี ควรมีการประมาณการณ์ค่าใช้จ่ายระยะยาวตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบปริญญาตรีไว้เลยเป็นอย่างน้อย โดยค่าใช้จ่ายด้านการศึกษาบุตรนั้น แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ
– ค่าใช้จ่ายภายในโรงเรียน
หรือที่เราเรียกกันว่า “ค่าเทอม” นั่นเอง ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ ก็ขึ้นอยู่กับประเภทโรงเรียนที่เราเลือกให้กับลูกในตอนแรกว่า จะให้ลูกเข้าเรียนที่ไหน แล้วจึงนำอัตราค่าใช้จ่ายของแต่ละสถานศึกษา ในแต่ละระดับชั้นมารวมกัน ซึ่งผู้ปกครองสามารถค้นหาเบื้องต้นได้จากในอินเตอร์เน็ตหรือจากเว็บไซต์ของแต่ละสถาบันได้เลย
– ค่าใช้จ่ายภายนอกโรงเรียน
สำหรับครอบครัวส่วนใหญ่ในสมัยนี้ คงปฏิเสธไม่ได้ว่า “การส่งลูกเรียนพิเศษ” นั้น ได้กลายเป็นอีกหนึ่งสิ่งสามัญไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการเรียนเพื่อส่งเสริมความสามารถพิเศษของลูก หรือแม้แต่การเรียนเพื่อทบทวนเนื้อหาจากที่โรงเรียน โดยค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ขึ้นอยู่กับแต่ละครอบครัวว่า อยากจะสนับสนุนลูกให้ไปในทิศทางใด
หลังจากทราบจำนวนเงินทั้งหมดที่ควรเตรียมแล้ว อย่าลืมนำผลรวมที่ได้ มาบวกกับอัตราเงินเฟ้อทางด้านการศึกษา โดยจะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6-8% ต่อปี
ทำทุนประกันชีวิตให้เพียงพอกับทุนการศึกษาบุตร
อีกหนึ่งส่วนที่สำคัญที่สุดของการวางแผนการศึกษาบุตรที่ไม่ควรมองข้าม ในฐานะผู้นำที่เป็นรายได้หลักของครอบครัว นอกเหนือจากการทำทุกสิ่งเพื่อปกป้องลูกน้อยแล้ว อีกหนึ่งคนที่ควรปกป้อง นั่นคือ ตัวคุณเอง
ยกตัวอย่างกรณีครอบครัวของคุณปอ ทฤษฎี คงไม่มีใครคาดคิดว่าครอบครัวจะสูญเสียเสาหลักที่สำคัญไป ดังนั้น การทำประกันชีวิต จึงเป็นอีกหนึ่งการป้องกันความเสี่ยงสำคัญที่ผู้นำครอบครัวทุกคนไม่ควรมองข้าม
โดยทุนประกันที่เหมาะสมนั้น ต้องไม่น้อยกว่า จำนวนค่าเรียนลูกทั้งหมดที่เราได้คำนวณไว้ เพราะนั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์ใดขึ้นก็ตาม ลูกของเราจะยังคงได้รับการศึกษา ตามที่เราได้วางแผนเอาไว้ในตอนต้นนั่นเอง