ท่ามกลางภาวะวิกฤตโรคระบาดในปัจจุบันทำเอาหลายคนกังวลและสับสนเกี่ยวกับการทำประกันสุขภาพ เพราะมีหลายบริษัท ต่างออกโปรโมชันประกันให้เลือกใช้งาน จนไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าจะเลือกทำประกันแบบไหนดี โดยเฉพาะหนุ่มสาววัยกลางคนที่กำลังวางแผนเกี่ยวกับการเกษียณในช่วงบั้นปลายของชีวิต โดยในวันนี้จะมา แนะนำเช็กลิสต์ของการทำประกันสุขภาพสำหรับผู้ใหญ่ว่าเหตุใดจึงควรทำประกัน
ที่มารูปภาพ
https://pixabay.com/photos/hospital-labor-delivery-mom-840135/
เช็กลิสต์วันนี้ คุณควรทำประกันสุขภาพผู้ใหญ่เพราะอะไร
1. มีสวัสดิการอะไรบ้าง
ก่อนที่จะไปทำประกันสุขภาพอยากให้ทุกท่านได้ลองสำรวจตนเองก่อนว่าปัจจุบันสวัสดิการที่ได้รับในเรื่องของการรักษาพยาบาลมีอะไรบ้าง เช่น ประกันสังคม ประกันหมู่ของบริษัท บัตรทอง จากนั้นลองตรวจสอบความคุ้มครองของสวัสดิการที่ได้รับว่าเพียงพอต่อความต้องการของคุณแล้วหรือยัง โดยเฉพาะในอนาคตภายหลังจากที่เกษียณอายุการทำงาน ว่าสวัสดิการที่ได้รับนั้นเพียงพอต่อสุขภาพของคุณหรือไม่
2. อนาคตไม่มีอะไรแน่นอน
คงไม่มีใครกล้าปฏิเสธได้ว่าตลอดชีวิตจะไม่เจ็บป่วยจากโรคภัยต่าง ๆ ขึ้นอยู่กับสุขภาพของแต่ละคนว่ามีความแข็งแรงมากน้อยเพียงใด เพราะต่อให้แข็งแรงมากพอก็อาจเจ็บป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะโรคร้ายแรงที่มักจะคร่าเอาชีวิตของคนที่เรารักไปก่อนวัยอันควร เนื่องจากไม่สามารถที่จะตรวจสอบได้เลยว่าอาการเบื้องต้นของคนเป็นโรคร้ายแรงนั้นมีลักษณะอย่างไร จะรู้ตัวก็เมื่อเข้าสู่ระยะลุกลามหรือระยะสุดท้ายแล้ว ดังนั้นการมี ประกันโรคร้ายแรง แม้จะไม่ช่วยให้หายป่วยได้ในทันที แต่ก็มีโอกาสเลือกวิธีการรักษาที่ดีได้
3. การทำประกันไม่ใช่การแช่ง
หลายคนเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำประกันในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และอื่น ๆ ซึ่งเข้าใจผิดคิดว่าการทำประกันเหล่านี้จะเป็นการแช่งให้ตนเองเจ็บป่วยหรือเสียชีวิต เพราะคงไม่มีใครอยากเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตจากโรคร้าย แต่เป็นการสร้างความมั่นใจในชีวิตว่าหากเราป่วยเมื่อใดก็จะมีหนทางในการรักษาและไม่ทำให้เป็นภาระของครอบครัวได้
4. ไม่เป็นภาระของคนในครอบครัว
เมื่อถึงวัยเกษียณแล้วต้องเผชิญกับการเจ็บป่วยด้วยโรคร้าย ซึ่งบางโรคจะต้องใช้ระยะเวลาในการรักษาเป็นเวลานาน ทำให้เงินที่เก็บมาตลอดชีวิตอาจหมดไปกับการรักษาก็เป็นได้ ดังนั้นการมี ประกันโรคร้ายแรง ก็จะช่วยแบ่งเบาภาระให้กับคนวัยเกษียณและไม่เป็นภาระของคนในครอบครัวได้ เช่น การป่วยด้วยโรคมะเร็งที่จะต้องเข้ารับการบำบัดและรักษาด้วยวิธีคีโมในการหาหมอแต่ละครั้งก็จะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ยิ่งหมอนัดตรวจมากเท่าไหร่ ค่าใช้จ่ายก็จะเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น
5. อาชีพและการทำงาน
สำหรับใครที่ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือพนักงานเอกชน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องทำประกันสุขภาพเอาไว้ เพราะเมื่อใดที่คุณเจ็บป่วยไม่สามารถทำงานได้ก็จะทำให้คุณขาดรายได้ในการหาเงินมาจุนเจือครอบครัว ซึ่งหากมีประกันสุขภาพเมื่อคุณเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลก็จะได้รับเงินชดเชยรายได้ระหว่างการรักษา ทำให้หมดปัญหาเรื่องรายได้ที่ขาดหายไป โดยเฉพาะการป่วยด้วยโรคร้ายแรงที่มักจะทำให้เข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อย ๆ ซึ่งส่งผลต่องานที่คุณทำเป็นอย่างมาก และจะยิ่งมีผลกระทบมากหากเป็นอาชีพอิสระหรือฟรีแลนซ์ที่มักจะไม่มีสวัสดิการใด ๆ รองรับ
หากใครตรวจสอบเช็กลิสต์ทั้ง 5 ที่กล่าวมาข้างต้นแล้วพบว่าสมควรที่จะทำประกันสุขภาพ แต่ยังไม่รู้จะทำประกันสุขภาพในรูปแบบใด ลองมองหาบริษัทประกันที่เป็นมืออาชีพมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก เพื่อตรวจสอบกรมธรรม์ที่คุณต้องการโดยเฉพาะในส่วนของ ประกันโรคร้ายแรง ที่นอกจากจะให้ความคุ้มครองโรคร้ายแรงแล้ว ยังจ่ายเงินชดเชยในกรณีที่คุณต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลอีกด้วย
นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบประกันสุขภาพเกี่ยวกับค่ารักษาในส่วนของผู้ป่วยนอกหรือ OPD เพื่อให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายทุกครั้งที่เข้ารับการตรวจในการรักษาโรคร้ายแรงหรือโรคเรื้อรัง เพราะส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การรักษาแบบผู้ป่วยในหรือ IPD เท่านั้น
ที่มาข้อมูล
–https://www.tisco.co.th/th/advisory/2020-12-16-checklist-health-cancer-insurance.html
–https://www.krungsri.com/th/plearn-plearn/insurance-when-have